คุยกับเลขา | สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รับไม้ ต่อมือ

   เพื่อนสมาชิกวารสารสานพลังและท่านผู้ร่วมขบวนสังคมสุขภาวะที่มีเกียรติทุกท่านครับ
 
   ก่อนอื่นใด ผมต้องขอรายงานตัวอย่างเป็นทางการว่า บัดนี้ผมได้เข้ามารับภารกิจต่อจากคุณหมออำพล จินดาวัฒนะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากได้รู้ตัวว่าต้องเข้ามาทำหน้าที่เลขาธิการ สช. ต่อจากท่านเมื่อเจ็ดเดือนก่อน ซึ่งแม้ว่าจะดูเนิ่นนานไปสักนิด แต่ก็ทำให้มีเวลาเตรียมตัวได้อย่างเต็มที่ครับ
 

อำลา

   คุยกับเลขาฉบับนี้ เป็นฉบับสุดท้ายของผมในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
 
   ผมมาทำงานปฏิรูประบบสุขภาพต่อเนื่องนาน 16 ปีเศษ ตั้งแต่เป็น ผอ. สำนักงานปฏิรูประบบสุขภาพ (สปรส.) 7 ปี เป็นเลขาธิการ คสช. 8 ปีเศษ นับว่ายาวนานทีเดียว
 
   การได้มีโอกาสทำงานสำคัญนี้ ทำให้ผมได้เรียนรู้เรื่องต่างๆ เพิ่มขึ้นมากมาย
 

เตรียมส่งไม้

   ผมมารับหน้าที่เป็นแกนขับเคลื่อนการปฏิรูประบบสุขภาพตั้งแต่ปี 2543 มีภารกิจจัดกระบวนการแบบมีส่วนร่วมในการจัดทำ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทำงานปฏิรูประบบสุขภาพในทิศทาง “สร้างนำซ่อม” โดยขยายความหมายสุขภาพ จากเรื่อง “มดหมอหยูกยา” เป็นเรื่องของสุขภาวะทางกาย ใจ จิตวิญญาณ (ปัญญา) และสังคม
 
   พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติประกาศใช้เมื่อปี 2550 มีคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) เป็นกลไกหลักในการเชื่อมทุกภาคส่วน อันได้แก่ ภาครัฐ ภาควิชาการ วิชาชีพ และภาคสังคม เข้ามาร่วมทำงานด้านสุขภาพ ตามแนวทางการอภิบาลแบบเครือข่ายหรือหุ้นส่วน
 

สานพลังรับมือสังคมสูงวัย

   วันนี้สังคมไทยเปลี่ยนไปมาก เมื่อ30-40 ปีก่อน คนมีลูกมาก ยากจน แต่มาวันนี้ คนมีลูกน้อย ที่พร้อมไม่ค่อยท้อง ที่ท้องไม่ค่อยพร้อม แต่คนจนก็ยังมาก
 
   วันนี้มีคนอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 15แล้ว อีกเพียง 5 ปีจะมีเพิ่มเป็นร้อยละ 20 และในปี 2578 จะเพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 30
 
   สังคมไทยสูงวัย(ชรา)อย่างรวดเร็ว คนวัยแรงงานมีสัดส่วนลดลง เด็กเกิดน้อย ในขณะที่สังคมต้องการการผลิต การทำงาน และการพัฒนาทุกสาขาเพิ่มมากขึ้นไปตามโลก
 

ใบไม้ต้นเดียวกัน

   เมื่อปลายเดือน กพ.59 รมว.สธ. (ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร) เชิญผู้บริหาร สช.,สปสช.,สวรส.,สสส.,สรพ.,สพฉ. พร้อมกับปลัด กสธ.,รองปลัดฯ และทีมบริหารของ รมต. (ผช.รมต.,ที่ปรึกษา) ประชุมร่วมกัน เพื่อรับฟังงานของแต่ละองค์กร ได้แลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อพัฒนาการทำงานร่วมกันแบบสานพลัง (synergy) ให้ไปในทิศทางเดียวกัน สู่เป้าหมายเดียวกัน คือ การสร้างสุขภาวะของคนไทย
 
   องค์กรเหล่านี้คือทุนของประเทศที่เป็นองคาพยพเดียวกันในระบบสุขภาพแห่งชาติ คือ ใบไม้ต้นเดียวกัน
 

น่าเป็นห่วง

   ประเทศไทยตกหล่ม ติดขัด ไม่ขยับไปไหนมาหลายปีแล้ว จนบางคนบอกว่าจะกลายเป็น “หลุมดำของอาเซียน” ไปแล้ว
 
   เรามีความขัดแย้งแตกแย้งกันมาก สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาคือ การพัฒนาที่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม รวยกระจุก จนกระจาย ยิ่งพัฒนา คนส่วนน้อยได้มาก คนส่วนมากได้น้อย ช่องว่างห่างมากขึ้นไปเรื่อย
 
   ไม่ว่ารัฐบาลใด มาจากไหน ก็แก้ไม่ได้ ยิ่งมีอำนาจมาก ยิ่งเร่งพัฒนา ทำโน่นทำนี่แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด รวดเร็ว ไม่ฟังใคร ยิ่งอาจทำให้ปัญหาหนักขึ้น ชุมชนท้องถิ่น คนเล็กคนน้อยได้รับผลกระทบจากนโยบายและการดำเนินงานของรัฐมากขึ้น เหลื่อมล้ำมากขึ้น แตกแยกมากขึ้น