“ในการทำงาน การที่หมอส่วนใหญ่ไม่ได้รับการอบรมเรื่องการดูแลแบบประคับประคอง (palliative care) สำหรับผู้ป่วยระยะท้าย ไม่ค่อยมีในหลักสูตรแพทยศาสตร์ในโรงเรียนแพทย์ว่าผู้ป่วยแบบไหนคือผู้ป่วยระยะท้าย หมออาจไม่เข้าใจ จึงต้องมีคำจำกัดความถึงผู้ป่วยลักษณะนี้ ว่าการอยู่ในระยะท้าย หมายถึงการมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่เดือน หมอจะได้ตระหนักว่านี่คือ palliative แล้วส่งผู้ป่วยเข้ารับบริการซึ่งเป็นประโยชน์ต่อตัวเขาเอง”
ที่ประชุมถ่ายทอดประสบการณ์ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะผ่านกลไก 4PW พื้นที่ ก่อนจะสรุป “หัวใจความสำเร็จ” 4 ประการ ‘เปิดพื้นที่กลาง-สร้างประเด็นร่วม-ใช้ความรู้นำ-เคลื่อนเป็นขบวน’
เพียง 2 ปี (2560-2562) ที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ได้เสริมพลังขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะระดับพื้นที่ ภายใต้กลไก “คณะทำงาน 4PW ระดับจังหวัด” เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมการขึ้นรูปของประเด็นต่างๆ 82 พื้นที่ทั่วประเทศ รวม 237 ประเด็น
สช. เปิดวงสรุปบทเรียนขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ ผ่านกลไก 4PW ระดับพื้นที่ พบทั้งโอกาสและข้อจำกัดการขับเคลื่อนนโยบายหลายด้าน ที่จะนำไปสู่การสร้างสุขภาวะของคนในจังหวัด พร้อมเสนอยกระดับจากประเด็น “ทางเลือก” สู่ประเด็นร่วมในระดับจังหวัดและชาติต่อไป
วันที่ 16 ตุลาคม นี้ ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ครั้งที่ 4/2562 ในช่วงแรก หลังจากนั้นได้มอบให้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมต่อ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานจากภาคีที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อจัดทำข้อเสนอการพัฒนานโยบายและระบบรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะของไทย เล็งเพิ่มยอดการบริจาคอวัยวะและปลูกถ่ายไตอีกเท่าตัว
เมื่อสุขภาพเป็นสิ่งที่รอไม่ได้ ซ้ำปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่แปรเปลี่ยน ส่งผลให้เชื้อโรคและปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ฝุ่น หมอกควัน เกิดขึ้นอย่างมากมาย การแพทย์และระบบสาธารณสุขไทยจึงต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การควบคุม-ป้องกัน-รักษา-ฟื้นฟู ให้มีประสิทธิภาพเท่าทัน จำต้องมีการสานพลังทุกภาคส่วนมาร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และครอบคลุมทุกประเด็นที่เห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องเร่งพัฒนา