Page 47 - บทเรียนจากทั่วโลก เมื่อชีวิตบั้นปลายและการตายดี"มีราคาที่ต้องจ่าย"
P. 47

เ ล่ า ใ ห้ ลึ ก                                                    เรื�อง นายแพทย์วิชัย  โชควิวัฒน





 ก
 กาฬโรคสมัยรัชกาลท่� ๕ าฬโรคสมัยรัชกาลท่� ๕     กาฬโรคสมัยพระเจ้าอู่ทอง” ไว้ด้วย โดยได้ประมวลความเห็น   เช่นนั้นก็น่าจะม่กาฬโรคระบาดภายหลังการตั้งกรุงศร่อยุธยา
                ในหนังสือดังกล่าวได้ต่พิมพ์ภาคผนวก  “สมมุติฐานเรื�อง
                                                       ด้วย เพราะกาฬโรคยังคงระบาดในหลายมณฑลของจ่นจนถ้ง
 (ตอนจบ)ตอนจบ)  เรื�อง  “โรคห่า”  ท่�  “หลักฐาน”  ต่างๆ    เช่น  พงศาวดารเหนือ   ราว  พ.ศ.  ๑๙๐๕  เป็นอย่างน้อย  ดังนั้นเมื�อกรุงศร่อยุธยาม่
 (
                                                       สภาพเป็นเมืองท่�ม่ผู้คนหนาแน่นข้้น  และม่การติดต่อค้าขาย
             จดหมายเหตุวันวลิต และพระราชพงศาวดารฉบับต่างๆ กล่าวว่า
             เป็นสาเหตุท่�พระเจ้าอู่ทอง “อพยพย้ายเมืองมาตั้งกรุงศร่อยุธยา”  กับจ่น จ้งม่โอกาสสูงท่�จะเกิดกาฬโรคระบาด แต่กลับไม่ปรากฏ
                “โรคห่า”  ดังกล่าว  เดิมเชื�อกันว่า  คือ  อหิวาตกโรค แต่   หลักฐานการระบาดภายหลังการก่อตั้งกรุงศร่อยุธยาเลย
    ข  ข    ้อ  ต่อมา ไมเคิล ไรท์ ชาวอังกฤษซ้�งสนใจเรื�องไทยมายาวนานได้     นอกจากน่้  หากโรคระบาดท่�เกิดข้้นเมื�อครั้งสถาปนา
 ้อมูลเรื�องกาฬโรคสมัยรัชกาลท่�  ๕  น่้ เนื้อหาหลักมูลเรื�องกาฬโรคสมัยรัชกาลท่�  ๕  น่้ เนื้อหาหลัก
 น
 นำามาจากหนังสือ  “กาฬโรคสมัยรัชกาลท่�  ๕”  ท่�สำานักำามาจากหนังสือ  “กาฬโรคสมัยรัชกาลท่�  ๕”  ท่�สำานัก  เสนอว่า  โรคห่าท่�เป็นเหตุให้พระเจ้าอู่ทองอพยพย้ายเมืองมา  กรุงศร่อยุธยาเป็นกาฬโรคท่�ระบาดมาจากจ่นจริง  ก็ควร
 วรรณกรรมและประ  ตั้งกรุงศร่อยุธยาเมื�อ  พ.ศ.  ๑๘๙๓  นั้น  น่าจะเป็นกาฬโรค  ปรากฏหลักฐานการระบาดในเมืองท่าอื�นๆ ท่�ม่การติดต่อ
 วรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร เร่ยบเร่ยงข้้นวัติศาสตร์ กรมศิลปากร เร่ยบเร่ยงข้้น
 และ
 และพิมพ์เผยแพร่ เมื�อ พ.ศ. ๒๕๖๒พิมพ์เผยแพร่ เมื�อ พ.ศ. ๒๕๖๒  มากกว่า เพราะช่วงนั้นม่การระบาดใหญ่ของกาฬโรคทั้งในยุโรป  ค้าขายกับจ่นด้วย เช่น นครศร่ธรรมราช ปัตตาน่ ชวา ฯลฯ
             เอเช่ย  และแอฟริกา  ซ้�งม่หลักฐานการระบาดในช่วง  พ.ศ.  แต่ไม่พบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ท่�แสดงว่า  บริเวณ
             ๑๘๘๙ - ๑๘๙๔ ทำาให้ผู้คนล้มตายไปมากมาย ส่วนการระบาด  ดังกล่าวม่โรคระบาดอย่างร้ายแรงในช่วงเวลานั้น  อ่กทั้ง
             ในไทยน่าจะแพร่ระบาดจากจ่นผ่านการติดต่อค้าขายทาง  งานวิชาการด้านประวัติศาสตร์การแพทย์และโรคภัยไข้
             เรือสำาเภา โดยม่หนูเป็นพาหะนำาโรค        เจ็บในภูมิภาคเอเช่ยตะวันออกเฉ่ยงใต้ก็ไม่ปรากฏข้อมูล
                อย่างไรก็ด่ ยังม่ข้อชวน “สงสัย” หรือ “ข้อโต้แย้ง” อยู่บาง  เรื�องการระบาดของกาฬโรคในช่วงเวลาดังกล่าว ซ้�งตรงกัน
             ประการต่อ “ข้อสรุป” ท่�ว่า ทำาให้หนังสือเล่มน่้ ถือว่า ข้อสรุปว่า   ข้ามกับโรคอื�นๆ เช่น ไข้ทรพิษ ท่�ม่ข้อมูลการระบาดมากมาย
             โรคห่าคือ กาฬโรค ยังเป็นเพ่ยง “สมมุติฐาน” โดยม่เหตุผลดังน่้  โดยเฉพาะในชวา  ส่วนกาฬโรคนั้นปรากฏการระบาดใน
                ประการแรก กาฬโรคเป็นโรคระบาดท่�ร้ายแรงและรวดเร็ว  สมัยหลังๆ ซ้�งตรงกับสมัยรัชกาลท่� ๕ และสอดคล้องกับ
             ทั้งยังม่หนูเป็นพาหะเพาะโรคซุกซ่อนอยู่ในธรรมชาติ และสะสม  การระบาดวงกว้างครั้งท่� ๓ ในพุทธศตวรรษท่� ๒๕
             เชื้อไว้ในสิ�งแวดล้อม  เมื�อเกิดการระบาดในพื้นท่�ใดแล้วจ้งม่     ป  ระการสุดท้าย งานวิชาการหลายเรื�องได้ตั้งคำาถาม
             โอกาสสูงท่�จะเกิดการระบาดซำ้าอ่ก เช่น การระบาดของกาฬโรค  เก่�ยวกับการเกิดกาฬโรคระบาดครั้งใหญ่ ทั้งในยุโรป อินเด่ย
             ท่�ยุโรปเมื�อ พ.ศ. ๑๘๘๙ - ๑๘๙๔ นั้น ภายหลังการระบาดสงบ  และจ่น เช่น บทความเรื�อง “The Black Death : End of a
             ลงแล้ว ก็เกิดการระบาดซำ้าอ่กหลายครั้งในประเทศต่างๆ เป็น  Paradigm” (๒๐๐๒) ของ Samuel K. Cohn, Jr. ซ้�งเสนอว่า
             เวลาหลายร้อยปี  แล้วจ้งค่อยๆ  ลดลงในพุทธศตวรรษท่�  ๒๓  โรคระบาดครั้งใหญ่ท่�เกิดข้้นในยุโรปยุคกลางหรือท่�เร่ยกว่า
             ตรงกันข้ามกับกรณ่ของไทย  ซ้�งหากเกิดข้้นจริงในช่วงเวลา  Black  Death  นั้น  อาจไม่ใช่กาฬโรคอย่างท่�เข้าใจกัน
             เด่ยวกัน  กลับไม่พบการระบาดอ่กเลย  กล่าวคือภายหลังการ  เนื�องจากม่ลักษณะหลายประการท่�แตกต่างจากการระบาด
             สถาปนากรุงศร่อยุธยาเมื�อ พ.ศ. ๑๘๙๓ หลักฐานประวัติศาสตร์  ของกาฬโรคท่�ทราบจากการศ้กษาทางการแพทย์ใน
             ของไทยไม่ปรากฏชื�อกาฬโรค หรือเหตุการณ์ท่�อาจเป็นการ  ปัจจุบัน ทั้งอาการของโรค การลุกลามของโรค ตลอดจน
             ระบาดของกาฬโรคเลย เป็นเวลา ๕๐๐ ปีเศษ จนกระทั�งเกิด  ผลกระทบทางสังคมท่�เกิดข้้น  ในขณะเด่ยวกัน  บทความ
             การระบาดของกาฬโรคในสมัยรัชกาลท่� ๕  ทั้งยังแตกต่างจาก  เรื�อง “Was the Black Death in India and China?”
             โรคระบาดอื�นๆ  เช่น  อหิวาตกโรคและไข้ทรพิษ  ซ้�งปรากฏชื�อ  (๒๐๑๑) ของ George D. Sussman ก็ตั้งข้อสงสัยเรื�องโรค
             ในหลักฐานประวัติศาสตร์สมัยอยุธยาหลายครั้ง  โดยเฉพาะ  ระบาดท่�เกิดข้้นในอินเด่ยและจ่นในช่วงเวลาเด่ยวกัน
             ไข้ทรพิษ  ซ้�งเป็นโรคระบาดท่�สำาคัญมากในสมัยอยุธยาตราบ  Sussman  ใช้เอกสารชั้นต้นของอินเด่ยและจ่นนำาเสนอว่า
             จนถ้งต้นรัตนโกสินทร์                    โรคระบาดท่�เกิดข้้นในอินเด่ยและจ่นสมัยนั้นอาจไม่ใช่
                ประการท่�สอง แม้กาฬโรคจะระบาดไปทั�วยุโรปเมื�อ พ.ศ.  กาฬโรค  ด้วยเหตุผลหลายประการ  เช่น  การไม่ปรากฏ
             ๑๘๘๙ - ๑๘๙๔ แต่ก็ม่บางเมืองหรือบางประเทศในยุโรปท่�  คำาอธิบายอาการของโรคระบาดในเอกสาร
             ไม่ม่การระบาด  หรือม่การระบาดค่อนข้างน้อย  แม้จะอยู่ใกล้     เอกสารดังกล่าวได้พิจารณาโรคอื�นๆ  ท่�อาจเป็น
             กับบริเวณท่�ม่การระบาดรุนแรง เช่น เมืองมิลานในอิตาล่ และ  “โรคห่า” อ่ก ๓ โรค ได้แก่ อหิวาตกโรค, ไข้ทรพิษ,
             ราชอาณาจักรโปแลนด์ เป็นต้น นอกจากน่้ กาฬโรคยังระบาด  ไข้จับสั�น ผู้สนใจควรหาหนังสือดังกล่าวมาอ่านต่อไป
             ไปเกือบทั�วประเทศจ่น แต่ไม่พบหลักฐานว่าม่การระบาดอย่าง  หนังสือดังกล่าว  นอกจากม่การอภิปรายประเด็นทาง
             ร้ายแรงในญ่�ปุ่น  ทั้งท่�อยู่ใกล้และม่การติดต่อค้าขายกับจ่น  ประวัติศาสตร์แล้ว เนื�อหาสาระหลักคือม่เอกสาร
             โดยตลอด หากสันนิษฐานว่ากาฬโรคระบาดมาจากจ่น จนเป็น  ประวัติศาสตร์ทางการสาธารณสุขเก่�ยวกับการควบคุม
             สาเหตุของการอพยพมาตั้งกรุงศร่อยุธยา ใน พ.ศ. ๑๘๙๓  ถ้า  กาฬโรคในสมัยนั�นให้ศ่กษาอย่างด่ยิ�ง


 ติดตามตอนท่� ๑, ๒ และ ๓
 44     ฉบับ ๑๓๘ : มีนาคม ๒๕๖๕ ัน าคม ๒๕๖   ได้ในนิตยสารสานพลัง ฉบับ ๑๓๔-๑๓๕ และ ๑๓๗  ฉบับ ๑๓๘ : มีนาคม ๒๕๖๕  45
 ฉบับ ๑๓  :       า น
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52