| สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ Skip to main content

เมืองไทยหัวใจมนุษย์

ข้อมูลบทความ

   การพัฒนาประเทศที่มุ่งเน้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยให้ความสำคัญต่อรากฐานของวัฒนธรรมไทย มนุษย์และสังคม น้อยลง ก่อให้เกิดการพัฒนาที่ขาดสมดุล ดังนั้นสังคมที่มุ่งเน้นการพัฒนาด้านวัตถุ ความมั่งคั่ง ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ จึงมิใช่คำตอบสุดท้ายของการมีสุขภาพ หากแต่เป็นการพัฒนาที่ต้องอาศัยหลัก “เศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งเป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวชี้แนะเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด

 

สิทธิและหน้าที่ด้านสุขภาพ

ข้อมูลบทความ

   พรบ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 บัญญัติเรื่องสิทธิและหน้าที่ด้านสุขภาพของประชาชนไว้หลายประการ ดังปรากฏในมาตรา 5 -12

 

   สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงได้ร่วมกันรณรงค์สร้างความรู้ ความเข้าใจในการใช้สิทธิและหน้าที่ด้านสุขภาพดังกล่าว รวมถึงการเผยแพร่สื่อสารต่อสังคมเพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

 

   ในส่วนของสิทธิและหน้าที่ด้านสุขภาพทั้ง 8 มาตรา มีมาตรา 12 เพียงมาตราเดียวที่มีการจัดทำกฎกระทรวงเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการรองรับการปฏิบัติ

 

สมัชชาสุขภาพ

ข้อมูลบทความ

สมัชชาสุขภาพ คือ “กระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม”

 

สมัชชาสุขภาพ หมายถึง กระบวนการที่ให้ประชาชนและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเรียนรู้อย่างสมานฉันท์ เพื่อนำไปสู่การเสนอแนะ นโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ หรือความมีสุขภาพของประชาชน โดยจัดให้มีการประชุมอย่างเป็นระบบและอย่างมีส่วนร่วม

 

สมัชชาสุขภาพ มี ๓ ประเภท

๑) สมัชชาสุขภาพเฉพาะพื้นที่: ใช้อาณาบริเวณที่แสดงขอบเขตเป็นตัวตั้งในการดำเนินการ

 

HIA ในพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ

ข้อมูลบทความ

พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2250 ที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในกฎหมายไม่กี่ฉบับในประเทศไทยที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างมากที่สุด และเป็นกฎหมายฉบับแรกที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ ซึ่งครอบคลุมทั้ง เรื่องสิทธิ หน้าที่และความมั่นคงด้านสุขภาพ กระบวนการมีส่วนร่วม และกลไกการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาตรา ซึ่งว่าด้วยสิทธิของประชาชนในการร้องขอให้มีและเข้าร่วมกระบวนการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ

HIA ในสถาบันการศึกษา

ข้อมูลบทความ

บทบาทของสถาบันอุดมศึกษาในการพัฒนาระบบการประเมินผลกระทบทางสุขภาพเริ่มขึ้นเมื่อสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ได้จัดตั้งแผนงานวิจัยและพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพและระบบการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ (แผนงาน HPP-HIA) โดยในปี พ.ศ. 2545 แผนงานฯ ดังกล่าวได้ขยายเครือข่ายการดำเนินงานมายังระดับภูมิภาค โดยมีเครือข่ายภูมิภาคในภาคเหนืออยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภาคกลางที่ มหาวิทยาลัยมหิดล และภาคใต้ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ประสบการณ์การประเมินผลกระทบทางสุขภาพในต่างประเทศ

ข้อมูลบทความ

องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) เป็นหน่วยงานเริ่มต้นและหน่วยงานหลักในการศึกษาวิจัยขั้นพื้นฐานและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการประเมินผลกระทบทางสุขภาพในระยะเริ่มแรก รวมทั้งกระตุ้นและเสนอแนะแนวทางให้แก่ประเทศสมาชิก และสถาบันการเงินระหว่างประเทศให้มีความรับผิดชอบต่อการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ ซึ่งทำให้มีการนำหลักการและกระบวนการประเมินผลกระทบทางสุขภาพไปใช้อย่างกว้างขวาง โดยสามารถแบ่งแนวทางการพัฒนาระบบการประเมินผลกระทบทางสุขภาพได้เป็น 2 แนวทางหลัก คือ

ประสบการณ์การประเมินผลกระทบทางสุขภาพในประเทศไทย

ข้อมูลบทความ

ในอดีตการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ (Health Impact Assessment: HIA) ในประเทศไทยถูกตีความว่าเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment: EIA) ซึ่งเป็นกลไกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่ประกาศใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 ต่อมามีการแก้ไขฉบับที่ 2 ในปี พ.ศ. 2521 ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2522 และฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันแก้ไขปรับปรุงในปี พ.ศ. 2535 EIA ตามกฎหมายฉบับนี้มีฐานะเป็นเครื่องมือประกอบการอนุมัติหรืออนุญาตการดำเนินโครงการ

นโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ

ข้อมูลบทความ

กฎบัตรออตตาวา ที่เกิดขึ้นจากการประชุมนานาชาติ ครั้งที่ ๑ เรื่อง “การสร้างเสริมสุขภาพ : การเคลื่อนสู่การสาธารณสุขแนวใหม่” เมื่อปี ๒๕๒๙ ที่กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา ได้นำเสนอกลยุทธ์แห่งการสร้างเสริมสุขภาพไว้ ๕ ประการ ซึ่ง ๑ ใน ๕ นั้นคือ “การสร้างนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ (Build Healthy Public Policy)”

ธรรมนูญระบบสุขภาพแห่งชาติ

ข้อมูลบทความ

การปฏิรูประบบสุขภาพให้เป็นไปในแนวทางที่เห็นพ้องต้องกันและมีเอกภาพนับว่าเป็นเจตนารมณ์และพันธะร่วมกันของสังคมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด การร่วมกันฝัน ร่วมกันคิด ร่วมกันเรียนรู้ ร่วมกันขับเคลื่อนและได้รับประโยชน์ร่วมกันล้วนเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญขององคาพยพทางด้านสุขภาพบนเส้นทางเดินที่ยาวไกล และ “ธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ” เป็นหนึ่งในสิ่งสร้างสรรค์ที่งอกงามอย่างมีคุณค่า ยิ่งถ้าหากสังคมช่วยกันนำไปขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่สุขภาวะได้อย่างมั่นคงนั่นแสดงว่าความศักดิ์สิทธิ์ของธรรมนูญได้บังเกิดขึ้นจริง กระบวนการจัดทำอย่างเป็นระบบ ทำให้ทุกภาคส่วนมีความสำคัญและมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม จนได้ส

Subscribe to