มติสมัชชา ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
เป้าหมายของมติ : ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญเร่งด่วนในระดับชาติที่จะต้องมีการจัดการการสื่อสารอย่างมีส่วนร่วมในวิกฤตสุขภาพ และมีความพร้อมในการบูรณาการการทำงานร่วมกันตามแนวทางการสื่อสารที่กำหนดในแผนแม่บท
มติข้อที่ 1 ขอให้ภาครัฐเตรียมความพร้อมด้านการสื่อสารในวิกฤตสุขภาพ โดยกำหนดให้เป็นวาระสำคัญเร่งด่วนในระดับชาติ พร้อมกำหนดแนวทางการสื่อสารในวิกฤตสุขภาพไว้เป็นการเฉพาะในแผนแม่บท ซึ่งกำหนดให้มีแผนการจัดการการสื่อสารในภาวะวิกฤตเป็น 3 ระยะ คือ ระยะก่อนเกิดวิกฤต ระยะเกิดวิกฤต และระยะหลังเกิดวิกฤต ทั้งแผนระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว พร้อมทั้งกำหนดแผนบูรณาการการจัดการและงบประมาณที่เหมาะสมในการจัดการ การสื่อสารในวิกฤตสุขภาพร่วมกันกับทุกภาคส่วน โดยต้องคำนึงถึงบริบทและสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่เป็นสำคัญ

อ้างอิงมติข้อ - 

รายงานความก้าวหน้ามติ

1. สช. จัดประชุมเตรียมการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ มติ 14.3 การจัดการการสื่อสารอย่างมีส่วนร่วมในวิกฤตสุขภาพ วันที่ 27 มกราคม 2565 เพื่อแจ้งมติและปรึกษาหารือแนวทางการขับเคลื่อนมติ 14.3 การจัดการการสื่อสารอย่างมีส่วนร่วมในวิกฤตสุขภาพ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานองค์กรและภาคีเครือข่ายประมาณ 60 คน

2. NBT/กรมประชาสัมพันธ์ ดำเนินโครงการประชาสัมพันธ์การแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัรัสโคโรนา 2019 หากเกิดสถานการณ์วิกฤตสุขภาพ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารข้อมูลข่าวสารเพื่อการประชาสัมพันธ์ (IOC) เป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อสื่อสารนโยบายสำคัญของรัฐบาล มติคณะรัฐมนตรีและประเด็นเร่งด่วน
3. กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย  

มีกลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในการเผยแพร่ข่าวสารให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบ

4. กรมสุขภาพจิต สธ.  มี พ.ร.บ.สุขภาพจิต / การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อ /   โครงการฟื้นฟูจิตใจหลังภาวะวิกฤต ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19

5. กรมอนามัย สธ.

- มีกลไกการสื่อสารในภาวะวิกฤตทั้ง 3 ระยะ คือ ระยะก่อนเกิดวิกฤต ระยะเกิดวิกฤต และระยะหลังเกิดวิกฤต / มีแผนการสื่อสารในภาวะวิกฤตทั้งแผนระยะสั้นและแผนระยะยาว

- มีกลไกภาคีพัฒนาประสานบูรณาการเพื่อให้เกิดการ Synergy และสร้างความมีส่วนร่วมของภาคประชาชน

6. นิด้า อาจารย์บุคลากรมีองค์ความรู้ด้านการสื่อสารในภาวะวิกฤตและเป็นที่ปรึกษาให้กับ สบค.

7. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

- คณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ/จังหวัด

- แผนบริหารความเสี่ยงในสถานการณ์ฉุกเฉินและโรคอุบัติใหม่

8. สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กฎหมายจัดตั้งองค์กร / โครงการแพลทฟอร์มเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลประวัติการรักษาระหว่างโรงพยาบาล (Health Link) เป็นการจัดทำแพลตฟอร์มข้อมูลระหว่างโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลประวัติคนไข้ของโรงพยาบาล เพิ่มประสิทธิภาพของแพทย์ในการวินิจฉัย/รักษาที่ต่อเนื่อง และลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการตรวจวินิจฉัยโรคได้

9. สถาบันวัคซีนแห่งชาติ

- ดำเนินงานตามหน้าที่อำนาจ พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 มาตรา 22 (3) บริหารจัดการความรู้ข้อมูลข่าวสาร และจัดให้มีฐานข้อมูลเพื่อสนับสนุนการดำเนินการด้านวัคซีนของประเทศ

- มีทีมสื่อสารความรู้ด้านวัคซีนสู่ประชาชน ในประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนทั้งในสถานการณ์ปกติและในภาวะวิกฤติฉุกเฉิน

- ปีงบประมาณ 2565 จัดทำโครงการสร้างภาพลักษณ์ด้านวัคซีนเชิงรุกสู่สาธารณะ สร้างความร่วมมือกับเครือข่ายของ สธ. มีการจัด Webinar, ทำ Infographic และบทความเกี่ยวกับวัคซีน

            การดำเนินการที่ผ่านมา ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมหารือการขับเคลื่อนมติการจัดการการสื่อสารอย่างมีส่วนร่วมในวิกฤตสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 สช. และภาคีเครือข่ายได้จัดประชุมหารือการจัดตั้งศูนย์อำนวยการการสื่อสารอย่างมีส่วนร่วมในวิกฤตสุขภาพ และการจัดทำร่างแผนปฏิบัติการจัดการการสื่อสารอย่างมีส่วนร่วมในวิกฤตสุขภาพ โดยมีข้อเสนอต่อแนวทางการดำเนินงาน 2 ประการสำคัญคือ (1) การจัดตั้งศูนย์อำนวยการการสื่อสารอย่างมีส่วนร่วมในวิกฤตสุขภาพ ในรูปแบบคณะกรรมการ ภายใต้กำกับสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นกลไกกลางในการกำหนดนโยบายมาตรการการสื่อสารและบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (2) การจัดทำร่างแผนปฏิบัติการจัดการการสื่อสารอย่างมีส่วนร่วมในวิกฤตสุขภาพ โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแผนเตรียมความพร้อมด้วยการบูรณาการแผนงานและทรัพยากรให้การสื่อสารในวิกฤตสุขภาพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเอกภาพ (รายละเอียดตามไฟล์แนบ)