เรื่อง ฝรั่งแช่อิ่ม...
เมื่อวันที่ ๒๓ ม.ค. ๒๕๖๘ เป็นวันที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลอย่างเป็นทางการ และส่งผลให้คู่รัก หรือบุคคลไม่ว่าจะมีอัตลักษณ์ทางเพศใดสามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างเท่าเทียม และไม่ใช่เพียงสิทธิในความรักเท่านั้น กฏหมายฉบับนี้ยังส่งผลรับรองสิทธิสำคัญอื่นอีกด้วย เช่น สิทธิการให้ความยินยอมในสถานพยาบาล สิทธิได้รับประโยชน์และสวัสดิการของรัฐในฐานะคู่สมรส สิทธิการรับบุตรบุญธรรม การจัดการทรัพย์สินและหนี้สิน นอกจากนี้กฎหมายฉบับนี้ยังส่งผลให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) และประเทศที่ ๓ ในเอเชียที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม แต่เส้นทางนับจากมีกฎหมายสู่การปฏิบัติจริงให้ลดช่องว่างและสร้างความเท่าเทียม ยังคงต้องรอการพิสูจน์อีกยาวไกล ผู้เขียนชวนสำรวจสถานการณ์สำคัญระดับภูมิภาคและระดับโลกต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศ
สิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศใน Southeast Asia เท่ากันแค่ไหน
- จังหวัดอาเจะฮ์ (เขตปกครองตนเองของประเทศอินโดนีเซีย) มีการดำเนินการตามกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับรสนิยมทางเพศ อัตลักษณ์ และการแสดงออกทางเพศ โดยเป็นการดำเนินการตามกฎหมายของรัฐบาลอินโดนีเซีย แต่ทั้งนี้กิจกรรมทางเพศของเพศเดียวกันยังผิดกฎหมาย มีโทษคือการเฆี่ยนตี ๑๐๐ ครั้ง หรือจำคุก ๘ ปี
- ประเทศบรูไน มีกฎหมายห้ามการแสดงออกทางเพศในรูปแบบต่างๆ ยังไม่มีกฎหมายรับรองกิจกรรมทางเพศของเพศเดียวกัน และมีโทษประหารชีวิต จำคุก ๑ ปี และเฆี่ยน ๑๐๐ ครั้งสำหรับผู้ชาย เฆี่ยนตีและจำคุก ๑๐ ปีสำหรับผู้หญิง
- ประเทศกัมพูชาและลาว มีกฎหมายรับรองกิจกรรมทางเพศของเพศเดียวกัน แต่ประเทศกัมพูชามีการยอมรับความสัมพันธ์ของกลุ่มนี้ในบางเมือง ในขณะที่มาเลเซีย ไม่พบข้อมูลใดๆ
- สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต มีกฎหมายรับรองกิจกรรมทางเพศของเพศเดียวกัน บุคคลที่เป็น LGBTQ+ สามารถรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมได้ แต่คู่สมรส LGBTQ+ ยังไม่สามารถทำได้ มีกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับรสนิยมทางเพศ อัตลักษณ์
- ประเทศอินโดนีเซีย มีกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับรสนิยมทางเพศ อัตลักษณ์ และการแสดงออกทางเพศ โดยมีการคุ้มครองที่จำกัดตามกระบวนการทางกฎหมาย และผู้ที่แปลงเพศจะได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนเพศตามกฎหมายได้ แต่หลังจากการผ่าตัดแปลงเพศแล้ว
- สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ยังไม่มีกฎหมายรับรองกิจกรรมทางเพศของเพศเดียวกัน
- สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ มีกฎหมายรับรองกิจกรรมทางเพศของเพศเดียวกัน และมีการต่อต้านการเลือกปฏิบัติในบางเมือง รวมถึงมีกฎหมายต่อต้านการกลั่นแกล้งสำหรับนักศึกษาสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วประเทศ
- ประเทศสิงคโปร์ มีกฎหมายรับรองกิจกรรมทางเพศของเพศเดียวกัน และผู้ที่แปลงเพศจะได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนเพศตามกฎหมายได้ แต่หลังจากการผ่าตัดแปลงเพศแล้ว มีการป้องกันการเลือกปฏิบัติ การคุกคาม และความรุนแรงต่อเกย์
- สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มีกฎหมายรับรองกิจกรรมทางเพศของเพศเดียวกัน มีการห้ามการเลือกปฏิบัติต่อต้านเกย์ และการแปลงเพศได้รับการยอมรับและปฏิบัติอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๐
- ประเทศไทย มีกฎหมายรับรองกิจกรรมทางเพศของเพศเดียวกัน รวมถึงกฎหมายสมรสมเท่าเทียมที่มีผลใน พ.ศ. ๒๕๖๘ ที่ครอบคลุมสิทธิต่างๆ รวมถึงการป้องกันการเลือกปฏิบัติของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ
สถานการณ์ภาพรวมการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพเป็นอย่างไร
ข้อมูลจากงานวิจัยเรื่อง การพัฒนาระบบการแพทย์ในการดูแลสุขภาวะของบุคคลข้ามเพศในประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๖ ระบุว่าระบบบริการสุขภาพกลับเป็นปัญหาอุปสรรคสำหรับบุคคลข้ามเพศ ซึ่งต้องการบริการสุขภาพที่จำเพาะกับพวกเขา และยังระบุอีกว่า บุคคลข้ามเพศจะเจอปัญหาเรื่องสุขภาพเกี่ยวกับผลจากฮอร์โมน และพบอุปสรรคเมื่อไปใช้บริการสุขภาพ ทั้งจากตัวผู้รับบริการ กับผู้ให้บริการ ก็คือหน่วยบริการ หรือโรงพยาบาล เนื่องจากไม่เข้าใจและไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในการดูแลสุขภาพของบุคคลข้ามเพศ๑
นอกจากนี้ข้อมูลจากการสำรวจของ KKF ที่เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรในสหรัฐอเมริกาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๔ ต่อเรื่องการเข้าถึงระบบและการดูแลสุขภาพและประสบการณ์ของกลุ่ม LGBTQ+ พบว่า๑ พบความแตกต่างในการเข้าถึงระบบบริการของ LGBTQ+ ที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีอายุน้อยและเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อย พบการรายงานว่ามีสุขภาพที่ปานกลาง หรือย่ำแย่มากกว่ากลุ่มที่ไม่ใช่ LGBTQ+ แม้จะมีอายุน้อยก็ตาม ยังมีประสบการณ์ของผู้ให้บริการเชิงลบหลายประการ รวมถึงการถูกตำหนิว่าเป็นปัญหาสุขภาพหรือถูกเพิกเฉยต่อความกังวล ในขณะเดียวกันผู้คน LGBTQ+ มีแนวโน้มที่จะหารือเกี่ยวกับประเด็นด้านสุขภาพและสังคมบางอย่างกับผู้ให้บริการของตนมากกว่าผู้ที่ไม่ใช่ LGBTQ+
- 8 views