
สำนักงานคณะกรรมสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ในฐานะหน่วยงานหนึ่งซึ่งเป็นองค์กรหลักในการพัฒนาและขับเคลื่อนกระบวนการนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม โดยครอบคลุมนิยามของสุขภาพ กาย ใจ สังคม และปัญญา ได้เป็นส่วนหนึ่งของสายพานแห่งการต่อสู้ร่วมกันกับภาคประชาสังคมเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ
รูปธรรมที่ปักหมุดลงไปอย่างแน่ชัดถึงเจตนารมณ์ของ สช. ที่จะขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวคือ ส่วนหนึ่งของมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๒ เรื่อง “วิถีเพศภาวะ: เสริมพลังสุขภาวะครอบครัว”
ด้วยเข้าใจถึงความกังวลว่า สังคมไทยส่วนใหญ่ (ขณะนั้น) ยังไม่ตระหนักถึงอิทธิพลของเพศสภาพที่มีต่อสุขภาวะ ผู้คนบางส่วนเห็นว่าการปรับเปลี่ยนเพศภาวะจะทำให้ครอบครัวแตกแยก อีกทั้งการดำเนินของภาครัฐ ยังให้ความสำคัญน้อยกับนโยบาย มาตรการ การดำเนินงานที่มีความละเอียดอ่อนทางเพศอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบุคลากรหน่วยงานภาครัฐยังต้องการความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการวิเคราะห์ เพื่อนำไปสู่การยอมรับสำหรับใช้วางแผนปฏิบัติงาน
สิ่งเหล่านี้จึงนำมาซึ่งผลมติสมัชชาสุขภาพฯ ครั้งที่ ๑๒ ซึ่งเป็นนโยบายสาธารณะ ที่เข้าไปแก้ไขปัญหาดังที่กล่าวมาข้างต้น พร้อมทั้งกำหนดบทบาทให้หน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมกันขับเคลื่อนก่อนจะเสนอรายงานแก่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรับทราบ และดำเนินการสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
นอกจากการผลักดันนโยบายสาธารณะที่เรียกกันอย่างติดปากว่า ‘ขาขึ้น’ สช. ยังคงร่วมลงแรงเป็นหน่วยงานสานพลัง เชื่อมกับกลไกภาคส่วนต่างๆ เพื่อผลักดันวาระนโยบายให้เกิดขึ้นในทางปฏิบัติ หรือที่เรียกว่า ‘ขาเคลื่อน’
ศิรวิทย์ กมลธรรมศิษฏ์ นักวิชาการสำนักนโยบายสาธารณะเขตเมือง (สช.ม.) ผู้ซึ่งเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่สำคัญในการร่วมขับเคลื่อนเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ได้ฉายภาพว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา สช. โดย สช.ม. ได้ร่วมกับโครงการพัฒนากลไกนโยบายบริการสุขภาวะคนข้ามเพศ (T- HAT) ซึ่งเคลื่อนไหวโดยภาคประชาชนที่ชื่อว่าเครือข่าย ‘ข้ามเพศมีสุข’ และภาคีหน่วยงานต่างๆ ได้สานพลังร่วมกันจัดกิจกรรม และเวทีระดมความเห็นเพื่อนำไปสู่การผลักดันนโยบายสาธารณะสำหรับผู้มีความหลากหลายทางเพศ ดังนี้


ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลจากการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม ได้กลายเป็นประตูบานแรกที่ช่วยส่งเสริมคุณค่า ความหมาย และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม ทว่า การขับเคลื่อนเรื่องผู้มีความหลากหลายทางเพศและคนข้ามเพศ ยังคงมีแง่มุมอีกมาก ที่จะต้องขับเคลื่อนกันต่อไป โดยมติสมัชชาสุขภาพฯ เรื่อง วิถีเพศภาวะ: เสริมพลังสุขภาวะครอบครัว ซึ่งออกมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๒ นั้นไปไกลและครอบคลุมความหมายที่ไม่ได้จำกัดเพียงแค่เรื่องการสมรสเท่าเทียมเท่านั้น
แน่นอนว่า สช. และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน จะยังคงเป็นหน่วยงานที่เดินเคียงคู่ไปกับสังคม ดังที่เคยเป็นมาเสมอ
- 17 views